วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

#คำพ่อสอน พระบรมราโชวาท เรื่อง การทำงาน

พระบรมราโชวาท เรื่อง การทำงาน ใช้ได้กับทุกอาชีพ





พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ

 ''...ในชีวิตการงานนั้น ทุกคนมีภาระ อันหนักที่จะต้องกระทำมากมาย ทั้งในงาน อาชีพและงานที่ทำประโยชน์แก่สังคม นอกจากนั้นยังมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติ รับใช้ชาติบ้านเมืองในฐานะที่เป็นพลเมือง ไทยอีกประการหนึ่งด้วย...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ณ วังท่าพระ 14 ตุลาคม 2512 

''...ในการประกอบการงานทั้งปวงนั้น ทุกคนต้องมีความตั้งใจจริงและขยัน หมั่นเพียรต้องรู้จักคิดพิจารณาด้วยปัญญา และความรอบคอบยึดมั่นในความ สามัคคีและความซื่อสัตย์สุจริต ถือเอา ประโยชน์ส่วนรวมเป็นจุดประสงค์สำคัญจึงจะ สามารถปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้สำเร็จผลโดย สมบูรณ์ได้...'' 
   
พระราชดำรัส ในพิธีพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร
ประจำจังหวัดน่าน 10 มีนาคม 2512 


''...การที่จะทำงานเพื่อความมั่นคงและ ก้าวหน้านั้น มิใช่ว่าจะก้มหน้าก้มตาทำ หน้าที่ของแต่ละคนเท่านั้นจะต้องมีความ ร่วมมือสัมพันธ์กันระหว่างหน่วยงานทุกหน่วย เพื่อให้งานรุดหน้าไปพร้อมเพรียงกัน...'' 
    พระบรมราโชวาท ในโอกาสพระราชทาน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ข้าราชการ
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 22 กรกฎาคม 2513 


''...การเขียนเรื่องใด ๆ จะเป็นแนวใดก็ตาม จะเป็นคุณเป็นประโยชน์ได้และจะเป็นโทษ ได้ทั้งนั้น แล้วแต่วิธีการเขียนที่ ประพันธ์หรือที่เรียบเรียง ถ้ามีความคิดที่ดี ที่ชอบธรรมอยู่แล้วเขียนลงไปด้วยความ สามารถก็เป็นคุณได้...'' 
   
พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะกรรมการ
จัดรายการโดยเสด็จพระราชกุศล
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 10 มีนาคม 2513

 


''...เมืองไทยของเรา ประกอบด้วยคนหลาย จำพวก หลายวัยหลายความคิด หลายหน้าที่ ซึ่งทั้งหมดจะต้องอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ ว่าคนหนึ่งคนใดจะอยู่ได้โดยลำพัง...'' 
   
พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ
ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา 4 ธันวาคม 2517 

''...แต่ละคนก็มีหน้าที่ที่จะปฏิบัติงาน ของตน ที่เรียกว่าอาชีพของตน ถ้าทำดีก็เป็น สิ่งที่น่าชมและน่าปลาบปลื้มใจ เป็น ประโยชน์แก่ตัวเองและถ้ากิจการที่ทำ มีความเจริญในทางที่ดีที่ชอบก็ ทำให้ส่วนรวมของชาติบ้านเมือง มีความ ก้าวหน้าด้วยดี...'' 
   
พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ
ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคลเนื่องใน
โอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา 4 ธันวาคม 2518 

''...การจะทำงานให้มีประสิทธิผลและให้ ดำเนินไปได้โดยราบรื่นนั้น จำเป็นอย่างยิ่ง จะต้องทำด้วยความรับผิดชอบอย่างสูงไม่ บิดเบือนข้อเท็จจริงไม่บิดเบือนจุดประสงค์ที่ แท้จริงของงานสำคัญที่สุดต้องเข้าใจความหมาย ของคำว่า ความรับผิดชอบเพราะความรับผิดชอบ คือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำ จะหลีกเลี่ยงละเลยไม่ได้...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
16 กรกฏาคม 2519 





''...ผู้ที่มีปัญหาที่สามารถจะทำการงาน สำคัญ ๆ ให้ยึดหลักเป็นกำลังของ บ้านเมืองต่อไปได้นั้น จะต้องเป็นผู้ หนักแน่นในสัจจะ คือต้องมีความจริง พร้อมทั้งในคำพูดในการกระทำ ทั้งในบุคคลอื่นและในตนเองสิ่งใด ที่ตั้งใจจริงต้องปฏิบัติให้ได้ โดยเคร่งครัดครบถ้วน...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร 28 ตุลาคม 2521 

''...งานที่กระทำโดยอาศัยหลักวิชาที่ดี บนรากฐานแห่งความสุจริตและความ มุ่งมั่นและด้วยวิธีการอันแยบคายพร้อม ด้วยความพึงพอใจความอุตสาหะขะมักเขม้น เอาใจใส่ ด้วยความพินิจพิจารณา จะต้อง บรรลุที่ปราศจากโทษ และเป็นประโยชน์ แท้จริงอย่างแน่นอน...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
14 กรกฏาคม 2522
''...การทำงานใด ๆ ไม่ว่าเล็ก ใหญ่ ง่าย ยาก ถ้าย่อหย่อนจากความเพียร แล้ว ยากที่จะให้สำเร็จเรียบร้อยทันเวลา ได้ และเมื่อใดพลังของความเพียรนี้ เกิดขึ้น เมื่อนั้นการงานทั้งหลายก็สำเร็จได้โดย ง่ายดายและรวดเร็ว...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจาก
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 21 มิถุนายน 2522                                                              
''...ศิลปิน มีหน้าที่ที่จะดูว่ามีความรู้สึก อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและแสดงออก มาในทางของตน ดังนั้นศิลปินทุกฝ่าย จึงมีหน้าที่ที่จะตั้งจิตเจตนาที่บริสุทธิ์ เจตนาที่ดี ผลที่ออกมาก็ดีเป็นผลที่ สร้างสรรค์เป็นผลที่ทำให้โลกเรามีความเจริญ ก้าวหน้าโดยแท้จริง...'' 
   
พระราชดำรัส พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือ
สุพรรณหงส์ทองคำ 20 ธันวาคม 2522                                                                                                                                                                                                 

''...การทำงานสร้างเกียรติยศชื่อเสียง และความเจริญก้าวหน้านอกจากจะต้อง ใช้วิชาความรู้ที่ดีแล้ว แต่ละคนยังต้องมี จิตใจที่มั่นคงในความสุจริต และ มุ่งมั่นต่อความสำเร็จเป็นรากฐานรองรับ จึงจะบันดาลผลเลิศให้เกิดขึ้นสมบูรณ์ เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง...'' 
   
พระบรมราโชวาท พระราชทานเนื่องใน
โอกาสวันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน 2526


''...การทำงานให้สำเร็จขึ้นอยู่กับความ สุจริตกาย สุจริตใจ ด้วยความคิดเห็น ที่เป็นอิสระปราศจากอคติ และด้วย ความถูกต้องตามเหตุตามผลจึง จะช่วยให้งานบรรลุจุดมุ่งหมาย และประโยชน์ที่พึง ประสงค์โดยครบถ้วนแท้จริง...'' 
   
พระบรมราโชวาท พระราชทานเนื่องใน
โอกาสวันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน 2528

''...การทำงานสร้างอนาคตนี้ นอกจากจะต้อง ใช้วิชาความรู้ที่จัดเจนเป็นหลักแล้ว บุคคลยังจำเป็นต้องอาศัยคุณสมบัติพิเศษอีก หลายด้านเป็นเครื่องอุดหนุนและส่งเสริม ความรู้ของตนเป็นอย่างมากอีกด้วย...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
31 ตุลาคม 2528                                                                                                   
''...การทำงานให้สำเร็จผลแน่นอนและสมบูรณ์ ตามเป้าหมายนั้นจะต้องใช้ความรู้ความสามารถ พร้อมทั้งคุณสมบัติที่สำคัญ ๆ ในตัวบุคคลหลายประการ ทั้งความตั้งใจที่มั่นคง ความคิดสร้างสรรค์ ความ อุตสาหะพยายาม ความรับผิดชอบ ตลอดจนความสุจริต เป็น ธรรมนำมาปฏิบัติโดยสม่ำเสมอ...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
19 กรกฎาคม 2528 
                                                                                                                    ''...การปฏิบัติงานให้บรรลุผลเลิศนั้น นอกจากจะต้องมีความรู้ความสามารถ ทางวิชาการเป็นอย่างดีแล้ว ทุกคนจะต้อง มีความสำนึกตระหนักในหน้าที่ของตนแล้ว ตั้งใจปฏิบัติงานรับใช้ชาติบ้านเมือง ด้วย ความพากเพียรและอดทน...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตร
แก่ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนนายทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ
ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร 6 มีนาคม 2529 


''...การทำงานด้วยความรู้ความสามารถด้วย ความตั้งใจและเอาใจใส่ศึกษานั้น เป็นการ พัฒนาบุคคลให้มีคุณภาพสูงขึ้นโดยแท้ และ บุคคลที่มีคุณภาพอันพัฒนาแล้วย่อมสามารถ จะพัฒนางานส่วนรวมของชาติ ให้เจริญก้าวหน้าได้ดังประสงค์...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ
วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา 8 กรกฎาคม 2530 

''...เมื่อมีโอกาสและมีงานให้ทำ ควรเต็มใจ ทำโดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้หรือเงื่อนไขอันใด ไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง คนที่ทำงานได้จริง ๆ นั้น ไม่ว่าจะจับงานสิ่งใดย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมี ความเอาใจใส่ มีความขยันและซื่อสัตย์สุจริต ก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ
วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา 8 กรกฎาคม 2530 

''...หลักการสำคัญประการหนึ่ง ที่ จะส่งเสริมให้ปฏิบัติงานสำเร็จและ เจริญก้าวหน้าได้แท้จริง คือ การไม่ ทำตัวทำความคิดให้คับแคบ หากให้มีเมตตาและไมตรี ยินดี ประสานสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ร่วม งานอย่างจริงใจ...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
18 กรกฎาคม 2530 

''...การทำงานใด ๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งเป้าหมาย ขอบเขตและ หลักการไว้ให้แน่นอน เพราะจะช่วยให้สามารถ ปฏิบัติมุ่งเข้าสู่ผลสำเร็จได้โดยตรง และ ถูกต้องพอเหมาะพอดี เป็นการป้องกันและ ขจัดความล่าช้า ความสิ้นเปลือง ความเสียเปล่า ทุกอย่างได้อย่างสิ้นเชิง...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
17 กรกฎาคม 2530 


''....เกียรติและความสำเร็จ เกิดจากผลการ ปฏิบัติงานและปฏิบัติตัวของแต่ละคน ที่สามารถปฏิบัติงานในความรับผิดชอบ ให้ได้ผลสมบูรณ์ตรงตามวัตถุประสงค์และ ปฏิบัติตัวให้สุจริต เที่ยงตรง พอควรพอดีแก่ ตำแหน่งหน้าที่ที่ดำรงอยู่...'' 
   
พระบรมราโชวาท พระราชทานเนื่องใน
โอกาสวันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน 2531

                                                                                                                     ''...เมื่อทำงาน ต้องมุ่งถึงจุดมุ่งหมาย ที่แท้จริงของงาน งานจึงจะสำเร็จ ได้รับประโยชน์ครบถ้วน ทั้งประโยชน์ของงาน และประโยชน์ของผู้ทำ...'' 
   
พระบรมราโชวาท พระราชทานเนื่องใน
โอกาสวันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน 2532 ''                                                        

...อุปสรรคสำคัญของการทำงาน คือความท้อถอยและความหวั่นเกรงต่อ อิทธิพลต่าง ๆ ซึ่งเป็นเหตุบั่นทอนความสามารถ ในตน กับทั้งความเที่ยงตรงต่อหน้าที่ อย่างร้ายกาจ จึงต้องระมัดระวังควบคุมสติ และรักษาความสุจริตเป็นธรรมไว้ให้ได้ ตลอดเวลา...'' 

   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานกระบี่
และปริญญาบัตรนักเรียนนายร้อยตำรวจ
ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร 18 เมษายน 2532
                                                                                                                      ''...เมื่อจะเริ่มงานสิ่งใด ให้พยายามคิด พิจารณาให้เห็นจุดหมายเห็นสาระและประโยชน์ ที่แท้จริงของงานนั้นอย่างแจ่มแจ้ง แล้วจึง ลงมือทำด้วยความตั้งใจ มั่นใจ ด้วยความ รับผิดชอบอย่างสูง ให้ดำเนินลุล่วงตลอดไปอย่าง ต่อเนื่อง โดยมิให้บกพร่องเสียหาย...'' 
   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ
มหาวิทยาลัยมหิดล 5 กรกฏาคม 2533 

''...ทุกคนต่างมีหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทำเฉพาะหน้าที่นั้นเพราะว่าถ้าคนใดทำหน้าที่ เฉพาะของตัว โดยไม่มองดูคนอื่นงานก็ ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเหตุว่างานทุกงาน จะต้องพาดพิงกัน จะต้องเกี่ยวโยงกัน ฉะนั้น แต่ละคนจะต้องรู้ถึงงานของผู้อื่นแล้ว ช่วยกันทำ...'' 
   
พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคล
ต่าง ๆ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย 4 ธันวาคม 2533 



''...เมื่อมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น ทุกคน ชอบที่จะทำความคิดความเห็นให้สอดคล้อง กัน ร่วมกันพิจารณาหาทางแก้ไขด้วย เหตุและผล ตามความเป็นจริง บนพื้นฐานอันเดียวกัน ก็จะเห็นแนวทาง ปฏิบัติแก้ไขได้อย่างเที่ยงตรงถูกต้อง และเหมาะสม...'' 

   
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทาน
ปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
14 กรกฎาคม 2537
 

แหล่งที่มา: www.thaisnews.com





"ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึก
ในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ "
 
22 .10.2559

ขอบคุณข้อมูลจากหลายเว็บไซต์  ภาพจาก อินเตอร์เน็ต
 

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกไว้ในความทรงจำ “นายช่าง ยื่นมือมาสิ จะทายาให้”

“นายช่าง ยื่นมือมาสิ จะทายาให้”

ขณะที่ในหลวงทรงงาน เพื่อหาที่สร้างฝายทดน้ำ
 โดยมี อ.ปราโมทย์ ไม้กลัด 
ช่วยถือแผนที่ให้พระองค์ ปรากฎว่ามีตัวคุ่นได้กัดที่มือของอาจารย์ 
แต่อาจารย์ก็ได้เก็บอาการเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าพระพักตร์ 
แต่อาจารย์คิดว่าพระองค์คงไม่ทรงสังเกตเห็น 
อาจารย์ก็ได้แต่เอามือถู เพื่อคลายความเจ็บปวดแบบเนียนๆ
ก่อนจะเสด็จฯ กลับ ในหลวงทรงเสด็จฯ พระราชดำเนินไปที่รถยนต์พระที่นั่ง 
(การเสด็จฯ ครั้งนั้น ทรงขับรถยนต์ด้วยพระองค์เอง)
 เหมือนทรงค้นหาอะไรบางอย่าง

สักพักพระองค์ก็เสด็จพระราชดำเนินกลับไปหาอาจารย์ฯ 
โดยถือหลอดยามาด้วย
 "นายช่าง ยื่นมือมาสิ จะทายาให้"
อาจารย์ฯ ได้แต่ยืนตะลึง ใจมิกล้าอาจเอื้อมยื่นมือไปให้พระองค์ 
และไม่คิดว่าจะทรงสังเกตเห็น และมีพระเมตตาใส่พระทัย ถึงขนาดนี้...
พระองค์ทรงทายาให้อาจารย์ปราโมทย์ฯ พร้อมตรัส ว่า 
"ตัวคุ่นมันกัด ถ้าแพ้จะบวม ไม่เป็นไร ทายานี้แล้วเดี๋ยวก็ค่อยยังชั่ว"

ที่มา:https://plus.google.com/10921302932612533…/posts/VUsSbKr7Dvm